จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

"พงศ์พัฒน์" - "จักรทิพย์" เข้ม นโยบายหลัก​​​ "วิเชียร" ตำรวจต้องเป็นกลางเลือกตั้ง

Pic_174782

หลัง​ประกาศ​พระ​ราช​กฤษฎีกา​ยุบ​สภา มี​ผล​ตั้งแต่​วัน​ที่ 10 พฤษภาคม 2554 และ​มี​กำหนด​ให้​มี​การ​เลือกตั้ง​สมาชิก​สภา​ผู้แทนราษฎร​ใหม่ ใน​วัน​ที่ 3 กรกฎาคม 2554 นักการเมือง​แต่ละ​พรรค​ทยอย​เปิด​ตัวผู้​สมัคร ส.ส.​ทั้ง​ระบบ​เขต และ​ระบบ​บัญชี​ราย​ชื่อ “ปาร์ตี้ลิสต์”

นักการเมือง ผู้​สมัคร ส.ส. ผู้​สนับสนุน “หัวคะแนน” ต่าง​ลงพื้น​ที่​สนาม​เลือกตั้ง

หลาย ​พื้นที่​ที่​มี​การ​แข่ง​ขัน​สูง​กำลัง​ถูก​จับตา​มอง​กลุ่ม​ผู้​มี​ อิทธิพล มือปืน​รับจ้าง และ​กลุ่ม​หัวคะแนน​สนับสนุน​พรรคการเมือง​เริ่ม​เคลื่อนไหว​หาเสียง​ให้​ กับ​ผู้​สมัคร​ที่​สนับสนุน และ​กดดัน​ผู้​สมัคร​ต่าง​พรรคการเมือง

แม้ ​อำนาจ​เต็มๆ ใน​การ​เลือกตั้ง​จะ​เป็น​ของ​คณะ​กรรมการ​การ​เลือกตั้ง หรือ กกต. ที่​มี​หน้าที่​แจก​ใบ​เหลือง ใบแดง​ผู้​สมัคร​ที่​มี​การ​ทุจริต​การ​เลือกตั้ง หรือ​ถึง​ขั้น​ประกาศ​ยุบ​พรรคการเมือง แต่​เวที​การ​เลือกตั้ง​มี​การ​แข่ง ​ขัน​เข้มข้น​กว่า​การ​เลือกตั้ง​ใน​ช่วง​อดีต​ที่​ผ่าน​มา ทุก​คะแนน​มี​ความ​หมาย​ต่อ​ทุก​พรรค การเมือง และ​มี​ผล​ต่อ​อนาคต​ของ​ประเทศ ทั้ง​พรรคการเมือง​ใหญ่ หรือ​พรรค​เล็ก ที่​มี​ฐาน​เสียง​ใน​พื้นที่

จึง​ต้อง​อาศัย​ความ​เข้มข้น​ของ​ตำรวจ​เพื่อ​ทำให้​ทุก​คน​อยู่​ภาย​ใต้​ระเบียบ กฎเกณฑ์ และ​กฎหมาย​เลือกตั้ง

สำนัก งาน​ตำรวจ​แห่งชาติ ที่​ทำ​หน้าที่ผู้​ช่วย กกต. มี​หน้าที่​หลัก คือ การ​รักษา​ความ​สงบ​เรียบร้อย​ทั่วไป ซึ่ง​เป็น​งาน​ปกติ​ของ​ตำรวจ และ​การ​สนับสนุน กกต. ทั้ง​การ​เลือกตั้ง ที่​เลือกตั้ง​กลาง ที่​นับ​คะแนน​หรือ​ที่​รวม​คะแนน ที่​เก็บ​รักษา​บัตร​เลือกตั้ง​และ​หีบ​บัตร​เลือกตั้ง

พล.ต.อ.​วิเชียร พจน์​โพธิ์​ศรี ผบ.ตร. เป็น​แกน​หลัก​สำคัญ​ใน​การ​ดูแล​รักษา​ความ​สงบ​เรียบร้อย​การ​เลือกตั้ง ต้อง​รับ​ภาระ​หนัก​ใน​การ​จัด​แผน​เพื่อ​ป้องกัน​เหตุ​รุนแรง​ใน​ช่วง​การ​ เลือกตั้ง

เพื่อ​ทำให้​เกิด​ความ​มั่นใจ​ในความ​ปลอดภัย​ของ​ประชาชน และ​ผู้​สมัคร​รับ​เลือกตั้ง ส.ส.

การ​แข่ง​ขัน​ของ​ผู้​สมัคร​แบบ​เขต​เดียว​เบอร์​เดียว ยิ่ง​เพิ่ม​ดีกรี​กว่า​การ​เลือกตั้ง​แบบ​แบ่ง​เขต​ใหญ่

ปัญหา ​ความ​ขัดแย้ง​ของ​กลุ่ม​มวลชน​หลาก​สี​ที่​น่า​เป็น​ห่วง ทั้ง​กลุ่ม​เสื้อ​แดง เสื้อ​เหลือง และ​กลุ่ม​คน​บาง​กลุ่ม​ที่​ไม่​ต้องการ​ให้​มี​การ​เลือกตั้ง คน​ที่​ฉวย​โอกาส​ล้างแค้น​ชิง​ผล​ประโยชน์​ใน​ช่วง​เลือกตั้ง

ล้วน​เป็น​ปัจจัย​ที่​เสี่ยง​กับ​ความ​รุนแรง​ที่​มี​ผล​ต่อ​การ​เปลี่ยนแปลง​ประเทศ

พล.ต.อ. ​วิเชียร ต้อง​อาศัย​ประสบการณ์​ที่​ได้ชื่อ​ว่า​มี​ความ​ชำนาญ​ใน​เรื่อง​การ​ดูแล​ ความ​สงบ​เรียบร้อย​การ​เลือกตั้ง เพราะ​อดีต​ตั้งแต่​ที่​โยก​เข้า​มา​ตำแหน่ง​ประจำ ตร. หรือ​ที่​ปรึกษา (สบ  10) เทียบเท่ารอง ผบ.ตร. ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​รับผิดชอบ​การ​เลือกตั้ง​มา​โดย​ตลอด ทั้ง​ระดับ​ท้องถิ่น และ​ระดับ​ชาติ

จน​ทำให้ พล.ต.อ.​วิเชียร มอง​ภาพ​การ​เลือกตั้ง​ได้​ครบ​ทุก​ด้าน และ​มี​กำหนด​แผนการ​เลือกตั้ง​ไว้​ล่วงหน้า​ทั้ง​การ​ฝึก​อบรม​ใน​เรื่อง​ กฎหมาย​เลือกตั้ง​ให้​กับ​ตำรวจ การ​รณรงค์​วางตัว​เป็นกลาง การ​ฝึก​ระบบ รปภ. ผู้​สมัคร และ​หัวคะแนน และ​การ​สืบสวน​หา​ข่าว​การ​เคลื่อนไหว​ของ​ กลุ่ม​ผู้​มี​อิทธิพล มือปืน​รับจ้าง เพื่อ​ไม่​ให้​ตำรวจ​ตกเป็น​เครื่องมือ​ของ​ฝ่าย​การเมือง

มี​การ​ เสนอ แผน​รักษา​ความ​สงบ​เรียบร้อย​การ​เลือกตั้ง และ​สนับสนุน กก​ต. หรือ “แผนพิทักษ์​เลือกตั้ง 54” ที่​มี พล.ต.อ.​พง​ศพัศ พง​ษ์​เจริญ ที่​ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่า รอง ผบ.ตร. ทำ​หน้าที่​หัวหน้า​ศูนย์​เลือกตั้ง พล.ต.อ.​ภาณุ​พง​ศ์ สิง​หรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. ​รับผิดชอบ​ศูนย์​บริหาร​วิกฤตการณ์​ร้ายแรง

แจกจ่าย​อำนาจ​เด็ดขาด รอง ผบ.ตร. และ ผบช. ที่​รับผิดชอบ​พื้นที่​มี​ส่วน​ใน​การ​ดูแล​การ​เลือกตั้ง

โดยเฉพาะ พล.ต.ท.​พง​ศ์​พัฒน์ ฉายาพัน​ธุ์ ผบช.ก. ที่​มี​หน่วย​กำลัง​สนับสนุน​หลัก​ทั่ว​ประเทศ โดยเฉพาะ​หน่วย​งาน​สืบสวน​สำคัญ “กอง​ปราบปราม” และ พล.ต.ท.​จักร​ทิพย์ ชัย​จินดา ผบช.น. ที่​รับผิดชอบ​สนาม​เลือกตั้ง​สำคัญ กทม.

ซึ่ง​เป็น​ไฮไลต์​ของ​การ​เลือกตั้ง​ผู้​สมัคร ส.ส. และ​รับผิดชอบ​การ​เคลื่อนไหว​ชุมนุม​ประท้วง​ของ​กลุ่ม​คน​หลาก​สี

จะ ​ต้อง​อาศัย​ประสบการณ์​ที่​ครบ​เครื่อง​ของ​ทั้ง พล.ต.ท.​พง​ศ์​พัฒน์ และ พล.ต.ท.​จักร​ทิพย์ ที่​เป็น​นักสืบ​มือ​ปราบ เข้า​มา​เพื่อ​อำนวยการ​เลือกตั้ง​ให้​เป็น​ไป​โดย​สงบ​เรียบร้อย ตาม​นโยบาย​เข้ม​ของ พล.ต.อ.​วิเชียร

พล.ต.ท.​พง​ศ์​พัฒน์ จัด​หนัก​ชุด​กอง​ปราบปราม​กดดัน​ผู้​มี​อิทธิพลและมือปืน​รับจ้าง ดูแล​เข้ม​การ​ขน​ลำเลียง​บัตร และ​หีบ​บัตร​เลือกตั้ง​ทั่ว​ประเทศ ทั้ง​

ทาง​บก ทาง​เรือ และ​ทาง​รถไฟ

พล.ต.ท. ​จักร​ทิพย์ เข้ม​เรื่อง​การ​รักษา​ความ​ปลอดภัย​ผู้​สมัคร ส.ส.​ใน​พื้นที่ กทม. ล้วน​แต่​เป็น​คน​ใหญ่​โต​มีชื่อ​เสียง หาก​มี​เหตุ​เกิด​ขึ้น​จะ​เป็น​เรื่อง​ใหญ่​โต และ​การ​ขัดขวาง​การ​หาเสียง​ของ​กลุ่ม​มวลชน​หลาก​สี

พล.ต.ท.​จักร​ ทิพย์ ชัย​จินดา ผบช.น. กล่าว​กับ “ทีม​ข่าว​อาชญากรรม” ว่า “ได้​กำชับ​ตำรวจนครบาล​ให้​ยึดถือ​แผน​รักษา​ความ​สงบ​เรียบร้อย​การ​เลือก ตั้ง และ​สนับสนุน​คณะ​กรรมการ​การ​เลือกตั้ง สำนักงาน​ตำรวจ​แห่งชาติ หรือ “พิทักษ์​เลือกตั้ง/54” ซึ่ง พล.ต.อ.​วิเชียร พจน์​โพธิ์​ศรี ผบ.ตร. ได้​กำหนด​รายละเอียด​ไว้​ชัดเจน และ​คำสั่ง​ของ พล.ต.อ.​ภาณุ​พง​ศ์ สิง​หรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร.​ใน​การ​ติดตาม​จับกุม​มือปืน​ที่​มี​หมายจับ และ​เรียก​ผู้​สมัคร ส.ส.​ใน​พื้นที่​ที่​มี​ปัญหา​ทำ​ความ​เข้าใจ ไม่​ให้​ใช้​ความ​รุนแรง รวม​ทั้ง​การ​จัด​กำลัง​เจ้าหน้าที่​ดูแล​ความ​ปลอดภัย​ผู้​สมัคร ส.ส. และ​ผู้​สนับสนุน แต่​สิ่ง​ที่​เน้น​ย้ำ​ใน​เรื่อง​ความ​เป็นกลาง หาก​พบ​ตำรวจ​ที่​มี​ปัญหา​จะ​มี​คำสั่ง​ให้​ออก​นอก​พื้นที่​ทันที และ​หาก​ผล​สอบสวน​มี​ความ​ผิด​ชัดเจน​จะ​ดำเนิน​การ​ทาง​วินัยและ​อาญา​ ทันที”

“พื้นที่ กทม.​แบ่ง​เป็น 33 เขต​เลือกตั้ง และ 6,506 หน่วย​เลือกตั้ง มี​เขต​เลือกตั้ง​ที่​มี​การ​แข่ง​ขัน​สูง​ที่​ต้อง​จับตา​ใกล้​ชิด​ไม่​ เกิน 5 เขต คือ เขต​บางกะปิ เขต​บึงกุ่ม เขต​ดอนเมือง เขต​สาย​ไหม​​ และ​เขต​ท่าเรือ แต่​ใน​ปี​นี้​มี​ทายาท ลูก​หลาน​ของ​ผู้ใหญ่​ที่​เป็น​คน​รุ่น​ใหม่​ลง​สมัคร​ใน​หลาย​เขต​เลือก ตั้ง แตก​ต่าง​จาก​ทุก​ปี ซึ่ง​ทุกคน​ไม่​นิยม​ความ​รุนแรง ทำให้​การ​แข่ง​ขัน​ใน​พื้นที่ กทม. ไม่​หนัก​เหมือน​ต่าง​จังหวัด ไม่น่า​เป็น​ห่วง​เหตุ​รุนแรง​กับ​กลุ่ม​ผู้​สมัคร เพราะ​ผู้​สมัคร​ไม่ค่อย​มี​คู่กรณี และ​ไม่​มี​การ​เคลื่อนไหว​ของ​กลุ่ม​มือปืน​ใน​พื้นที่ กทม. ถ้า​จะ​ตาม​เป็น​เรื่อง​หัวคะแนน หรือ​ผู้​สนับสนุน ซึ่ง​ตาม​ตัว​ได้​เพราะ​รู้​กลุ่ม​หัวคะแนน​ของ​ทุก​พรรคการเมือง ได้​มอบ​ให้ พล.ต.ต.​สุเมธ เรือง​สวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.​รณ​ศิลป์ ภู่​สาระ ผบก.​ศสส.​บช.น. และ พล.ต.ต.​ธ​นพ​ล สนเทศ ผบก.​ตปพ. สืบสวน​หา​ข่าว​การ​เคลื่อนไหว​ของ​กลุ่ม​ที่​คิด​ก่อ​เหตุ​รุนแรง​ใน​ช่วง​ การ​เลือกตั้ง”

“บช.น.​จะ​ต้อง​จัด​กำลัง​ตำรวจ​ประจำ​หน่วย​เลือก ตั้ง​ที่​มี 6,506 หน่วย​เลือกตั้ง อย่าง​น้อย 1 นาย​ประจำ​หน่วย​เลือกตั้ง จัด​ชุด​สืบสวน​หา​ข่าว ชุด​เคลื่อนที่​เร็ว คิด​ว่า​จะ​ต้อง​ใช้​กำลัง​ไม่​น้อย​กว่า 10,000 นาย เพื่อ​ให้​เกิด​ความ​เรียบร้อย​ใน​การ​เลือกตั้ง แต่​ที่​เป็น​ห่วง​คือ กกต.​มี​คำสั่ง​ให้​เปิด​นับ​คะแนน​ที่​หน่วย​เลือกตั้ง ซึ่ง​อาจจะ​มี​ปัญหา​ใน​เรื่อง​ผู้​สนับสนุน​ที่​มี​ปัญหา​การ​นับ​คะแนน​ หรือ​มี​ปัญหา​ใน​หน่วย​เลือกตั้ง ซึ่ง​กำลัง​ตำรวจ และ กกต.​ประจำ​หน่วย​เลือกตั้ง​อาจ​ไม่​เพียงพอ​หาก​ผู้​สนับสนุน​มี​จำนวน​มาก ได้​สั่ง​ให้​ตำรวจ​ประจำ​หน่วย​เลือกตั้ง​มี​กล้อง​หรือ​โทรศัพท์​มือ​ถือ​ ที่​ถ่าย​ภาพ​ได้​เก็บ​บันทึก​ภาพ​ไว้​เป็น​หลักฐาน และ​จัด​ชุด ป​จ.​ประจำ​ที่​ตั้ง​หาก​มี​เหตุเร่ง​ด่วน”

พล.ต.ท.​พง​ศ์​พัฒน์ ฉายา​พันธุ์ ผบช.ก.​ย้ำ​ว่า “ได้​จัด​กำลัง​ชุด​สืบสวน​จำนวน 345 ชุด แยก​เป็น​ชุด​ธรรมดา​ที่​มี​การ​สนธิ​กำลัง​ตำรวจ 11 บก.ใน​สังกัด บช.ก. จำนวน 265 ชุด และ​ชุด​ปฏิบัติการ​พิเศษ จำนวน 80 ชุด ตาม​นโยบาย​ของ พล.ต.อ.​วิเชียร พจน์​โพธิ์​ศรี ผบ.ตร. เพื่อ​กดดัน​หา​ข่าว​การ​เคลื่อนไหว​ก่อ​เหตุ​รุนแรง และ​การ​ทุจริต​การ​เลือกตั้ง ลงพื้น​ที่​ทั่ว​ประเทศ ซึ่ง​ขณะ​นี้​มือปืน​น้อย​ลง​กว่า​สมัย​ก่อน​มาก แต่​ได้สั่ง​กอง​ปราบปราม​ที่​มี​ข้อมูล​ผู้​มี​อิทธิพล​

และ​มือปืน​ทั่ว​ประเทศ​เข้า​กดดัน​ใน​พื้นที่ โดย​กำชับ​ให้​เจ้าหน้าที่​ทุก​นาย​จะ​ต้อง​เป็นกลาง ซึ่ง​เป็น​นโยบาย ผบ.ตร.​ที่​เน้น​ย้ำ​มา​โดย​ตลอด อย่า​เอนเอียง​เข้า​ข้าง​ฝ่าย​หนึ่ง​ฝ่าย​ใด​โดยการ​เลือกตั้ง​ครั้ง​นี้​ ถือ​เป็น​โอกาส​ที่​ทุก​คนจะ​ได้​ช่วย​ชาติ​อีก​วาระ​หนึ่ง เด็ดขาด ศักดิ์ศรี​ของ​ตำรวจ​ที่​อยู่​วางตัว​เป็นกลาง จะ​ต้อง​เรียนรู้​ว่าการ​เข้า​ข้าง​ฝ่าย​ใด​จะ​เกิด​ปัญหา คดี​ที่​แจ้ง​ใช้​รูป​แบบ​ของ​คณะ​กรรมการ​พิจารณา​เพื่อ​ให้​เกิด​ความ​ เป็น​ธรรม​ทุก​ฝ่าย”

แม้​สภาพ​สังคม​ไทย​ใน​ช่วง​หลาย​ปี จะ​มี​การ​เคลื่อนไหว​ของ​กลุ่ม​นักการเมือง​สนับสนุน​มวลชน​หลาก​สี จน​ทำให้​เกิด​ความ​ขัดแย้ง​รุนแรง แต่​สิ่ง​ที่​พี่น้อง​คน​ไทย​ต้อง​เข้าใจ​คือ​กฎ​กติกากฎหมาย​บ้านเมือง เพื่อ​ให้​ประเทศ​ของเ​รา​เดิน​หน้า​ไป​ได้

บ้านเมือง​จะ​ต้อง​มี​กฎหมาย มี​ขื่อ​มี​แป ไม่​ใช่​ปล่อย​ให้ “กฎหมู่​อยู่​เหนือ​กฎหมาย”

ซึ่ง ​เป็น​หน้าที่​สำคัญ​ของ กกต. และสำนักงาน​ตำรวจ​แห่งชาติ จะ​ต้อง​ประคับประคอง​การ​เลือกตั้ง​ให้​เป็น​ไป​ตาม​เจตนารมณ์​ของ​กฎหมาย เพื่อ​ไม่​ให้​เกิด​เงื่อนไข​จน​สังคม​รับ​ผล​การ​เลือกตั้ง​ไม่ได้

ไม่​ใช่​เอื้อ​ประโยชน์​หรือ​พรรคการเมือง​ใดๆทั้งสิ้น

ชื่อ ​ชั้น​ของ พล.ต.ท.​จักร​ทิพย์ ชัย​จินดา ผบช.น. ​และ พล.ต.ท.​พง​ศ์​พัฒน์ ฉายา​พันธุ์ ผบช.ก.​ คง​ทำให้​การ​เลือกตั้ง​ที่​เข้มข้น​ครั้ง​นี้​เป็น​ไป​ด้วย​ความ​เรียบร้อย ตาม​กติกา​สากล​ตาม​หลัก​ประชาธิปไตย​ที่​ทุก​ฝ่าย​เคารพ​อ้างอิง

กลาย​เป็น​ความ​หวัง​ของ​ประเทศ​อีก​ครั้ง​กับ​การ​คืน​สู่​ความ​สงบ​เรียบร้อย

โดยเฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ความ​สามัคคี​ของ​คนใน​ชาติ​ที่​ทุก​คน​โหย​หา.

ที่มา

http://www.thairath.co.th/column/region/trialweek/174782

ตำรวจตาม “เย​ลลี่” คืนเจ้าของได้แล้ว

ที่ กองบังคับการปราบปราม(27 พ.ค.) พ.ต.ท.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป. ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย ร.ต.ท.ชาตรี รุ่งดำรงค์ รอง สว.กก.ปพ.บก.ป. ส.ต.ท.วีรวัฒน์ กิจจา ส.ต.ท.นรินทร์ เฟืองศรี ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป. ได้สืบสวนติดตามหาตัว “เยลลี่” สุนัขเพศเมีย พันธุ์เทอร์เรีย ขนสีขาว อายุ 12 ปี กลับมาคืนเจ้าของได้สำเร็จ หลังจากสุนัขตัวนี้ได้วิ่งออกจากบ้านแล้วหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีพลเมืองช่วยแจ้งเบาะแสจนสามารถติดตามไปนำตัวสุนัขตัวนี้มาจากผู้ใจบุญ คนหนึ่งซึ่งเก็บสุนัขไปเลี้ยงที่บ้านพัก ภายในหมู่บ้านกฤษดานคร ถ.บรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา

สำหรับเจ้า “เยลลี่” สุนัขพันธุ์เทอร์เรียตัวนี้เป็นของนายกุญชร สมิทธ์เมธา อายุ 40 ปี พนักงานบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ซึ่งวิ่งออกจากบ้านพักเลขที่ 10/10 ซ.ธรรมสโรจน์ ถ.พิบูลย์สงคราม แขวงและเขตบางซื่อ โดยวิ่งออกไปพร้อมกับเจ้า “โชค” ลูกชาย วัย 5 ปี เมื่อค่ำวันที่ 24 พฤษภาคม ซึ่งช่วงนั้นมีฝนตกหนักและฟ้าร้องเสียงดังจนทำให้ทั้งคู่เกิดอาการตกใจ จึงวิ่งเตลิดมุดรอดสังกะสีข้างบ้านไปโผล่บ้านพักญาติที่อยู่ติดกัน ก่อนจะพากันมุดรั้วบ้านออกไปทางปากซอยห่างจากบ้าน 300 เมตรแล้วหายตัวไป

เมื่อนายกุญชรและภรรยากลับจากทำงานก็ไม่พบสุนัขแม่ลูกจึงช่วย กันออกตามหาแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะพบตัวจึงนำข้อมูลและภาพถ่ายสุนัขทั้งสอง ตัวนี้ไปโพสไว้ในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง กระทั่งวันที่ 26 พฤษภาคมก็มีพลเมืองดีในโลกไซเบอร์แจ้งกลับมาว่าพบเห็นเจ้าโชคบริเวณ ซ.วงศ์สว่าง 21 จึงตามไปนำตัวกลับมาได้ เหลือเจ้าเยลลี่ที่ยังไม่ทราบชะตากรรมจึงมาขอความช่วยเหลือตำรวจกองปราบปราม ช่วยติดตามเนื่องจากเชื่อว่ามีชาวบ้านละแวกที่อาจจะทราบเบาะแส

จากการสอบถามพลเมืองดีทราบว่า ผู้ที่เก็บสุนัขทั้งสองตัวไปเลี้ยงเป็นแรงงานชาวพม่าชื่อนายหม่อง วิน ซึ่งพบสุนัขทั้งสองตัววิ่งเล่นอยู่ปากซอยขณะที่กำลังกลับห้องพักซึ่งช่วง นั้นมืดค่ำและมีฝนตกหนัก เมื่อเห็นว่าน่ารักและเชื่องจึงนำขึ้นรถแท็กซี่มาเลี้ยงที่ห้องเช่าภายในซอย วงศ์สว่าง 21 แขวงและเขตบางซื่อ โดยเลี้ยงได้อยู่หนึ่งคืนแต่ขณะเปิดประตูเพื่อกวาดมูลสุนัขทั้งสองก็วิ่งหนี ไป ต่อมาชุดสืบสวน กก.ปพ.บก.ป. สอบถามชาวบ้านแถวนั้นทราบว่ามีผู้ใจบุญ 2 คนแบ่งกันเก็บเจ้าโชค และเจ้าเยลลี่ไปเลี้ยงจึงติดตามไปขอนำมาคืนเจ้าของได้สำเร็จ

ทั้งนี้เมื่อนายกุญชรมาถึงห้องพักเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในโรงจอด รถสายตรวจ กก.ปพ.บก.ป. เจ้าเยลลี่ก็กระโดดลงจากโซฟาวิ่งกระดิกหางเข้ามาคลอเคลียและใช้ขาตะกายหน้า แข้งนายกุญชรอยู่พักใหญ่ก่อนที่นายกุญชรจะบรรจงอุ้มตัวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด อีกครั้ง

นายกุญชร กล่าวว่า เมื่อทราบว่าสุนัขทั้งสองตัวหายไปนั้นตนกับภรรยาเสียใจมากเพราะผูกพันมานาน เนื่องจากรับเลี้ยงเจ้าเยลลี่มาตั้งแต่ยังเล็กๆ ต่อมาได้หาพ่อพันธุ์พาผสมจนได้เจ้าโชคมาอีกตัว ปกติสุนัขทั้งสองตัวก็ไม่ค่อยได้ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน แต่ถ้าออกไปก็จะวิ่งเข้าไปในหมู่บ้าน ไม่เคยวิ่งออกไปทางถนนใหญ่ แต่คืนที่หายตัวไปนั้นฝนตกหนัก ฟ้าร้องมันคงกลัวจึงพากันวิ่งเตลิดไป

นายกุญชร กล่าวต่อว่า หลังหายตัวไปที่บ้านก็เสียใจร้องไห้ นอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงโดยเฉพาะเจ้าเยลลี่เป็นโรคมะเร็ง น้ำเหลือง เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดรักษาเมื่อเดือนก่อนเนื่องจากมะเร็งลามไปที่เต้านม ต้องตัดออกไป 2 เต้าจาก 4 เต้าจึงเป็นห่วงมันมากเพราะไม่คิดว่าจะสามารถติดตามตัวกลับมาได้แต่เมื่อ ทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสามารถตามตัวเจ้าเยลลี่มาได้แล้วก็ดีใจกัน ทั้งบ้าน

ที่มา

http://www.thairath.co.th/content/region/174707

วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.


กรณีเรื่องฮือฮาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายหลัง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. นายตำรวจ คนดังโผล่ นั่งประท้วงที่เก้าอี้สิบเวร ทวงถามความคืบหน้าจาก พล.ต.อ.วิเชยร พจน์ โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เกี่ยวกับโครงการที่พักอาศัยของ บช.ก. ซึ่งได้รับการอนุมัติจาก ครม. เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่คืบ ทั้งที่การจัดซื้อที่ดิน ต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดซื้อให้แล้วเสร็จก่อน 1 มิ.ย. เนื่องจาก ปรส.จะหมดอายุ ทำให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงหลายท่าน ต่างก็ออกมากันช่วยผลักดัน เพราะเห็นถึงความจำเป็นและความลำบากของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย และที่ทำการใหม่ โครงการที่พักอาศัยของ บช.ก. คงไม่คืบ หากไม่ได้ท่านไปนั่งประท้วงให้ งานนี้ได้ใจลูกน้องไปเต็มๆ

ชื่อ - นามสกุล : พลตำรวจโท พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์

ชื่อเล่น : กิ๊ก

นามแฝง/ฉายา : ผู้การกิ๊ก

วันที่เกิด : 22 เมษายน 2499

ประวัติครอบครัว

บิดา : ประวัต ฉายาพันธุ์
มารดา : นางยุพิน ฉายาพันธุ์

การศึกษา และดูงาน
- โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 15
- นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.รุ่น 31)
- ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- หลักสูตรบริหารงานตำรวจ มหาวิทยาลัยแคนาดา
- หลักสูตรเอฟบีไอ
ปี 2554 ปริญญานิติศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ตำแหน่งปัจจุบัน
1 ตุลาคม 2553 ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

การทำงาน และตำแหน่งหน้าที่
2 ตุลาคม 2530 สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน
1 ธันวาคม 2532 สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน
1 ตุลาคม 2534 สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลท่าพระ
2 ตุลาคม 2535 สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลยานนาวา
23 มกราคม 2537 รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลราษฎร์บูรณะ
1 มีนาคม 2539 รองผู้กำกับการหัวหน้าสถานีตำรวจนครบาลบางขุนนนท์
31 พฤษภาคม 2540 รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลเตาปูน
18 มิถุนายน 2541 รองผู้กำกับการป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรอำเภอเฉลิมพระเกียรติ
จังหวัดนครศรีธรรมราช
16 มีนาคม 2543 รองผู้กำกับการสวัสดิภาพเด็กและเยาวชน กองบัญชาการตำรวจนครบาล
10 พฤศจิกายน 2543 ผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม
16 พฤศจิกายน 2544 ผู้กำกับการ 2 กองปราบปราม
30 มิถุนายน 2548 ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม
1 พฤศจิกายน 2548 รองผู้บังคับการกองปราบปราม
1 ตุลาคม 2550 ผู้บังคับการกองปราบปราม
24 พฤศจิกายน 2552 รักษาการ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
12 กุมภาพันธ์ 2553 รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
1 ตุลาคม 2553 ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ยศหรือขั้น
1 ตุลาคม 2550 พลตำรวจตรี
1 ตุลาคม 2553 พลตำรวจโท

เครื่องราช
5 ธันวาคม 2549 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก
13 ธันวาคม 2552 ได้รับฉายาว่า นักสืบพฤติกรรมศาสตร์ สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย

บทความจาิก

http://www.thairath.co.th/people/view/pol/6224