จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

จับปล่อยเงินกู้คิดดอกโหด



กองปราบจับแก๊งเงินกู้คิดดอกโหด พบบัญชีลูกค้าเพียบ ครอบคลุมหลายจังหวัด พบมีเงินหมุนเวียนนับร้อยล้านบาทเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 15 มี.ค. พ.ต.อ.ชัชชม คล้ายคลึง รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อาทิตย์ ฉิมอร่าม ผกก.5บก.ป. พ.ต.ท.ศัตยุ ไชยสุวรรณ์ สว.กก.5.บก.ป. ร.ต.อ.ณรามินธร์ เทพจักรินทร์ รองสว.กก.5.บก.ป. นำกำลังพร้อมหมายค้นเลขที่ 206/2554 ของศาลจังหวัดเพชรบุรี เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่144/2 หมู่ 3 บ้านหัวกระถิน ซอยบ้านหม้อ คลองชลประทาน 8 อ.เมือง จ.เพชรบุรี เนื่องจากสืบทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวนั้นเป็นแหล่งปล่อยเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ ซึ่งมีนายณรงค์ศักดิ์ มงขุนทอง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 6 ต.หนองหม้อ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เป็นผู้เช่าอาศัย เบื้องต้นพบว่ามีรถจักรยานยนต์หลากหลายยี่ห้อ จอดเรียงรายอยู่หน้าบ้านจำนวน 23 คัน และพบรถยนต์เก๋ง 1 คัน และรถปิกอัพจำนวน 2 คัน และจากการตรวจค้นพบอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก เอกสารการกู้เงินของประชาชนที่มากู้เงินจำนวนมาก เงินสด ประมาณ 3 แสนบาท พร้อมทั้งสัญญาเงินกู้อีกจำนวนหนึ่ง จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานนอกจากนี้ยังพบกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันอยู่ในบ้านดังกล่าวจำนวน 22 คน จึงควบคุมตัวไว้สอบสวนเนื่องจากสืบทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวนั้นเป็นคนที่ตระเวนเก็บเงินกู้ให้กับนายทุนนอกระบบรายนี้ และยังพบว่า 2 ใน 22 คนนั้นคือนายประภาศ กิ่งสีวงศ์ อายุ 28 ปี และนายไชยเชษฐ แสงทอง อายุ 28 ปี เป็นผู้ต้องหาในข้อหาทำร้ายร่างกายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบและดำเนินคดีต่อไปด้าน พ.ต.อ.ชัชชม กล่าวว่า ในการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ เนื่องจากมีประชาชนได้โทรศัพท์ร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ว่ามีการทำร้ายร่างกาย และข่มขู่ ในการชำระหนี้ที่กู้ไป พื้นที่ จ.เพชรบุรี จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบและหาข่าวพร้อมกับบันทึกวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน จนกระทั่งขอหมายค้นลงมาตรวจสอบและมีการจับกุมในที่สุด ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่านายณรงค์ศักดิ์ มงขุนทอง มีเครือข่ายที่ออกเงินกู้ในหลายจังหวัด รวม 10 สาย มีลูกค้าอยู่ประมาณ 200-300 ราย ต่อ1 สาย ครอบคลุมทั้งกทม นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร หัวหิน ประจวบฯ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 40 มีเงินหมุนเวียนราว 100 ล้านบาท โดยทุกเช้ากลุ่มวัยรุ่นที่ตระเวนเก็บเงินกู้ให้กับนายทุนจะต้องมารวมตัวกันที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งแต่ละคนมีค่าตอบแทนตั้งแต่ 6,000 -10,000 บาท ภายหลังการจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันปล่อยเงินกู้นอกระบบโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กรรโชกทรัพย์และทำร้ายร่างกาย พร้อมทั้งควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางนำดำเนินคดีต่อไป.

กองปราบจับชมรมฟุตบอลเพชรเกษม91ยกทีมลอบเล่นพนัน




ที่กองปราบปราม เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2554 พ.ต.อ.อธิป ฉิมอร่าม ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศริพิณเพราะ สว.กก.5 บก.ป. ได้ทำการจับกุมตัวนายสุรพล เจริญ อายุ 19 ปี เจ้าของร้านชมรมฟุตบอลเพชรเกษม 91 อยู่บ้านเลขที่ 431 ม.10 ต.แม่สลองนาย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมพวกรวม 12 คน พร้อมของกลางโพยพนันฟุตบอลต่างประเทศ จำนวน 81 ใบ (เป็นเงิน 8,460 บาท) เงินสด จำนวน 17,190 บาท และของกลางรวม 9 รายการ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน (ทายผลฟุตบอลต่างประเทศ) เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยผิดกฎหมาย และเพิ่มขอหานายสุรพล เป็นเจ้ามือรับใช้ลักลอบเล่นการพนัน จับกุมได้ที่ร้านชมรมฟุตบอลเพชรเกษม 91 บริเวณแฟลตเคหะเพชรเกษม 91 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร สอบสวนนายสุรพล ให้การว่าที่ร้านได้เปิดเป็นชมรมฟุตบอลเพชรเกษม91 โดยหลังจากออกไปเล่นฟุตบอลที่สนามใกล้บ้านแล้ว ได้นำทีมฟุตบอลมาที่ร้านทั้งทีม แล้วมากาเล่นการพนันฟุตบอลต่างประเทศ อยู่เป็นประจำ จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเข้าจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ดำเนินคดี รายที่ ร.ต.ท.วิเชียร ตู้ทอง รอง สว.กก.5 บก.ป.จับกุมตัวนายวันชัย แก้วคำ อายุ 26 ปี นายสุรศักดิ์ ดวงพร อายุ 26 ปี และนายประยงค์ แก้วคำ อายุ 26 ปี ทั้ง 3 คนเป็นชาว จ.สุรินทร์ พร้อมของกลางโพยพนันฟุตบอลต่างประเทศ 57 ใบ (เป็นเงิน 4,070 บาท) เงินสด จำนวน 3,630 บาท รวมของกลาง 9 รายการ โดยกล่าวหาว่า ลักลอบเล่นการพนัน (ทายผลฟุตบอลต่างประเทศ) เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยผิดกฎหมาย และเพิ่มขอหากับนายวันชัย แก้วคำ เป็นเจ้ามือรับกิรับจ่ายอีกหนึ่งข้อหา จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 111/18-19 ซ.ศรทอง ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ส่ง สภ.กระทุ่มแบน ดำเนินคดีต่อไป ทีมข่าวอาชญากรรมรายงาน

วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554

ป.จับกัญชามูลค่า100ล้านบาท






กองปราบจับกัญชาล็อตใหญ่มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท พร้อมผู้ต้อง เผยลักลอบขนมาจากประเทศลาว เตรียมส่งไปมาเลเชีย

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 21 มี.ค. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ในฐานะโฆษก บก.ป. พ.ต.อ.อธิป ฉิมอร่าม ผกก.5 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายคูน มันทะวง อายุ 36 ปี นายเชียงน้อย ทำมะวง อายุ 40 ปี และนายเสริม สอฟันใจ อายุ 37 ปี ทั้งหมดสัญชาติลาว พร้อมของกลาง กัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 300 แท่ง น้ำหนักรวม 300 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท จับกุมได้ในพื้นที่หมู่ 4 ต.บ้านหนองแก้ว ต.รัตน อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เนื่องจากชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.สืบทราบว่ามีแก๊งค้ากัญชารายใหญ่ชาวลาว ลักลอบขนกัญชาล็อตใหญ่มาจากประเทศลาว ข้ามฝั่งแม่น้ำโขงผ่านเข้ามาในพื้นที่ จ.หนองคาย จึงวางแผนติดตาม กระทั่งพบกลุ่มผู้ต้องหา 4 คน กำลังขนกัญชาของกลางลงเรือจึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ผู้ต้องหา 1 ราย สามารถขับเรือหลบหนีไปได้ก่อน เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างจากนายทุนเป็นเงินคนละ 5,000 บาท เพื่อขนกัญชาดังกล่าวไปส่งให้นายทุนซึ่งทำมาแล้วหลายครั้ง โดยแต่ละครั้งจะมีผู้ติดต่อนัดจุดให้ไปรับที่บริเวณริมแม่น้ำโขง ก่อนนำลงเรือไปส่งตามที่มีการนัดหมาย และไม่ทราบว่ากัญชาทั้งหมดถูกนำมาจากแหล่งใด นอกจากนี้ได้โยนถุงดำที่บรรจุกัญชาบางส่วนทิ้งน้ำไปแล้ว 2 ถุง

อย่างไรก็ดี ตามแนวทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่พบว่ากัญชาทั้งหมดมีแหล่งผลิตจากประเทศเพื่อน บ้าน โดยผู้ต้องหาแก๊งนี้นับเป็น 1 ใน 5 ผู้ค้ากัญชารายใหญ่ในประเทศลาว ที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเพื่อไปส่งต่อกัญชาไปยังประเทศมาเลเซีย โดยมีการว่าจ้างต่อกันเป็นทอดๆ เพื่อไม่ให้สามารถสาวไปถึงตัวนายทุนใหญ่ สำหรับกัญชาของกลางที่ยึดไว้ได้นับว่าเป็นล็อตใหญ่ที่สุดที่มีการจับกุมได้ ในขณะนี้ และหากสามารถส่งไปขายยังต่างประเทศได้จะมีมูลค่าสูงถึง 100 ล้านบาท ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป.


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=419&contentID=128128