จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

  http://www.komchadluek.net/webdemo/content/home/images/Logo_Kom.png

'ทีมเวิร์ก'คือปรัชญาตำรวจยุคใหม่

เก็บตก...71ปี สถาปนา'บช.ก.' 'ทีมเวิร์ก'คือปรัชญาตำรวจยุคใหม่ : สารพันตำรวจ โดย พัฐอร พิจารณ์โสภณ

            ภาพตำรวจ "วันแมนโชว์" เก่งขั้นเทพอยู่คนเดียว อาจต้องเลือนหายไปจากยุทธจักรสีกากี เมื่อแนวคิด "ตำรวจยุคใหม่" ไม่สนับสนุนให้เก่งเพียงลำพัง สอดคล้องกับสุภาษิตที่ว่า "คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย หลายคนสบาย" (อิอิ) ในคอนเซ็ปต์งาน "วันคล้ายวันสถาปนา กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ครบรอบปีที่ 71" ได้พลิกโฉมการมอบรางวัลตำรวจดีเด่น จากที่เคยได้รับรางวัลกันเดี่ยวๆ คัดกันมาเป็นรายบุคคล เปลี่ยนมาเป็น "แพ็กทีม" ภูมิใจกันเป็นหมู่คณะ!!

             "ปัญหาของตำรวจหลายๆ คน คือไม่รู้จักทำงานเป็นทีม ไม่มีการประสานงานกัน ทั้งที่การทำงานเป็นทีมนั้นอยู่ในหลักการทำงานของตำรวจอยู่แล้ว แต่ทุกคนลืมมันไป เพราะงานตำรวจไม่สามารถทำเดี่ยวๆ ได้ ต้องทำร่วมมือกันเป็นทีมถึงจะเกิดความสำเร็จได้" พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. บอกถึงแนวคิดที่มุ่งเน้นให้ตำรวจต้องทำงานเป็นทีม

             พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ขยายความว่า ใครที่ทำงานแบบข้ามาคนเดียว หรือแข่งกันเอาผลงาน  มีข้อมูลแล้วเก็บไว้ไม่บอกใครหวังผลงานนั้น จะไม่อยู่ในการพิจารณาการมอบโล่เชิดชูเกียรติจาก บช.ก. ทั้ง นี้ การพิจารณาผู้ที่จะได้รับรางวัล ว่าจะต้องมีลักษณะของการทำงานเป็นทีมเท่านั้น เมื่อร่วมมือกันทำงานแล้ว เวลาประสบความสำเร็จต้องถือว่าเป็นผลงานของทุกคน

             ทั้งนี้ การทำงานแบบ "ทีมเวิร์ก" จะสร้างบรรยากาศการทำงานที่ชื่นมื่น คดีความก็คืบหน้าและประสบความสำเร็จสูง ประชาชนก็สุขใจ เสียสะท้อนจากประชาชนถึงตำรวจก็จะมีทิศทางดีขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว ความภาคภูมิใจก็จะกลับมาสู่องค์กร อย่างในวันนี้ มีการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้ทีมตำรวจที่มีผลงานดีเด่น โดยได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ ผบ.ตร. มามอบโล่เชิดชูเกียรติให้แก่ "ทีมตำรวจ" ที่มีผลงานดีเด่นในด้านต่างๆ 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มงานป้องกันอาชญากรรมดีเด่น ได้แก่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและ เทคโนโลยี จากผลงานการจัดทำการฝึกอบรมการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการบันทึก ภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ได้แก่พนักงานในโรงภาพยนตร์,  2.กลุ่มสอบสวนดีเด่น ได้แก่ กองบังคับการปราบปราม จากคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิง น.ส.เพชรรัตน์ สุดเสนาะ เสียชีวิตในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์, 3.กลุ่มสืบสวนดีเด่น ได้แก่ กองบังคับการปราบปราม เรื่องการสืบสวนปราบปรามกรณีคนร้ายข้ามชาติและสืบสวนคดีผู้มีอิทธิพลและมือ ปืนรับจ้าง

             4.กลุ่มบริการประชาชนดีเด่น ได้แก่ กองบังคับการตำรวจน้ำ ในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ลพบุรี และนครสวรรค์ และ 5.ฝ่ายอำนวยการดีเด่น ได้แก่ กองบังคับการอำนวยการ บช.ก.ในโครงการ “จัดทำคู่มือการปฏิบัติงานฯ "  โดยมีข้าราชการตำรวจที่ได้รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณในครั้งนี้ 48 นาย พร้อมกันนี้ยังได้มอบโล่ให้แก่สื่อมวลชน 7 คน ซึ่งมีส่วนร่วมในการผลักดัน “ทฤษฎีตำรวจผู้รับใช้ชุมชน" (Community Policing) ให้เป็นรากฐานของตำรวจยุคใหม่ในประเทศไทยด้วย

             "สิ่งที่เราจะทำต่อไป คือการรณรงค์วิธีการทำงานสืบสวนที่ถูกต้อง ถ้าทำงานสืบสวนแบบเก่าหรือไม่ถูกต้อง จะเกิด "แพะ" และยังจับคนร้ายไม่ได้ ทำคดีเสียหาย หรือไม่อาจไปเกิดอาชญากรรมประเภทอื่น ตำรวจนั้น สามารถที่จะสอบผู้ต้องหา โดยไม่ต้องแตะตัวผู้ต้องหาก็ได้ และพยายามศึกษาหาความรู้ ไม่ต้องขู่ผู้ต้องหา ให้เขาพูดออกมาเอง เหมือนกับสอบปากคำเด็ก ต้องเชิญผู้ที่มีความรู้ความชำนาญมาอบรมกันก่อน" พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เผยถึงก้าวต่อไปของตำรวจยุคใหม่

             สำหรับการรณรงค์การทำงานสืบสวนนั้น พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ บอกว่า จะให้ พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ รองผบช.ก. ซึ่ง เป็นปรมาจารย์ด้านงานสืบสวนมาร่วมกันวางแผนในด้านนี้ด้วย โดยจะให้ทันก่อนจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 และสิ่งที่มุ่งหวังอีกอย่างหนึ่งเพื่อให้ บช.ก.เดินหน้าต่อไปในการเข้าสู่ปีที่ 72 นั้น นอกจากการณรงค์วิธีการสืบสวนสอบสวนที่ถูกต้องแล้ว ควรขยายทฤษฎีตำรวจผู้รับใช้ชุมชนจากแค่ตำรวจ บช.ก.ไปยังตำรวจทั่วประเทศ เพื่อเป้าหมายของเราคือ การทำงานตำรวจไทยต้องอันดับต้นๆ ของเอเชีย!! 


ขอขอบคุณ ข้อมูบจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก