'ผู้รับใช้ชุมชน'ปรับวงจรชีวิตตร.
'ผู้รับใช้ชุมชน' ปรับวงจรชีวิต..ตำรวจ : ตะลุยข่าว โดยโต๊ะรายงานพิเศษ
"...ยังจำได้ไหมว่า เคยเป็นคนเก่ง
เคยมีอุดมการณ์ แต่เมื่อมาปฏิบัติหน้าที่แล้ว อุดมการณ์ก็ยิ่งลดน้อยลง
คนดีคนเก่ง ที่ได้รับการยอมรับจากสังคม
ต้นทุนทางสังคมต่ำทันทีเมื่อสวมเครื่องแบบ..."
หนึ่งในประโยคเด็ดจากพรีเซนเทชั่น เรื่อง "วงจรชีวิตตำรวจ"
ซึ่งสะท้อนภาพวงจรชีวิตตำรวจที่แรกๆ ก็ยังมีอุดมการณ์ยังแรงกล้า
พออยู่นานไป อุดมการณ์กลับหดหาย
ขณะเดียวก็สะท้อนภาพอีกแง่มุมของตำรวจที่ดีรับใช้ชุมชน...ปรากฏอยู่ภายใน
ห้องประชุมกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ต่อสายตาของ ดร.อิสระพัฒน์ ธีรพัฒน์สิริ และ ดร.สิรภพ รักษ์ธนธัช
ผู้เชี่ยวชาญสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมาร่วมรับฟังและเสนอแนะแนวคิด
"ตำรวจผู้รับใช้ชุมชน" ให้แพร่หลายไปทั่วทุกภูมิภาค
ก่อนจะนำแนวคิดดังกล่าวไปหาข้อสรุปร่วมกับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์
ผบ.ตร. ถึงการให้ตำรวจทั่วประเทศนำแนวคิดดังกล่าวไปปฏิบัติ
ทั้งนี้ "ตำรวจรับใช้ชุมชน" เกิดจากแนวคิดของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์
ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.
เป็นผู้ผลักดันให้ตำรวจไทยรู้จักและใช้วิธีการทำงานตำรวจสมัยใหม่
เน้นการบริการ ป้องกัน ปราบปราม มุ่งลดความหวาดระแวง
ตำรวจและประชาชนเป็นหุ้นส่วนต่อกัน
และแนวความคิดนี้ได้มีการนำไปใช้ในหลายประเทศทั่วโลก
โดยเฉพาะในเรื่องการลดอาชญากรรม จึงมีการศึกษาและนำมาทดลองในประเทศไทย
ตั้งแต่สมัยที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ยังเป็นหัวหน้า สน.บางขุนนนท์ เมื่อปี
พ.ศ.2535 จนกระทั่งมาเป็น ผบช.ก.จึงมีการผลักดันอย่างจริงจัง
เริ่มตั้งแต่การจัดนิทรรศการตำรวจยุคใหม่ไม่ทำผิด,
เปิดโรงเรียนตำรวจนอกเวลา
และในที่สุดกลายเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในปี
พ.ศ.2555-2564
ระหว่างการประชุม ร.ต.อ.ศ.ดร.สุธรรม
เชื้อประกอบกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านตำรวจผู้รับใช้ชุมชน
จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้สไกป์ข้ามประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยความคิดเห็น
พร้อมยกตัวอย่าง ในอเมริกามีการนำแนวคิด "ตำรวจรับใช้ชุมชน" มาใช้
สามารถช่วยลดอาชญากรรมได้อย่างดี เพราะความช่วยเหลือจากเครือข่ายภาคประชาชน
ดร.อิสระพัฒน์ ยอมรับว่า เป็นแนวคิดที่ดี
ต้องมีการสนับสนุนให้ตำรวจไม่ใช่ต้นทางของปัญหาเสียเอง
จึงต้องทำให้ตำรวจนั้นเป็นสีขาวเสียก่อน
และจากระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่รองรับและสนับสนุนการทำงานในแนว
คิดตำรวจผู้รับใช้ชุมชน ด้วยการส่งตำรวจลงไปฝังตัวในแต่ละชุมชนนั้น
อยากเสนอแนะว่า
ควรให้ตำรวจที่จะลงไปรับใช้ชุมชนนั้นเป็นตำรวจที่มีภูมิลำเนาอยู่ในชุมชน
นั้นๆ จริงๆ จะทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกดี
และช่วยให้แนวคิดตำรวจรับใช้ชุมชนเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้าน พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. กล่าวว่า ขณะนี้ชุมชนทั่วประเทศมีอยู่ประมาณ 8 หมื่นแห่ง มีสถานี
ตำรวจ 1,460
สถานี
การส่งตำรวจลงไปเหมือนเป็นการฉีดยาลงไปในเซลล์แตกตัวลงไปในชุมชนเพื่อลดความ
รุนแรงของอาชญากรรมที่เกิดขึ้น จึงต้องสร้างตำรวจที่เป็นผู้รับใช้ชุมชนก่อน
เพื่อเรียนรู้กับชุมชน ซึ่งจะต่างจากตำรวจชุมชนสัมพันธ์ที่จะเข้าไปในชุมชน
แต่ไม่ได้เข้าไปฝังตัวกับชาวบ้าน
พ.ต.ท.วรวุฒิ
คุณะเกษม รอง ผกก.5 บก.ป. เสริมว่า
ตอนนี้ก็ได้มีการนำแนวคิดตำรวจผู้รับใช้ชุมชนลงไปใช้ในชุมชนเซิงหวายแถว
ดอนเมือง โดยการคัดเลือก
ตำรวจ 2
นาย จาก บก.ปอศ. ที่มีจิตอาสาเข้าไปใช้ชีวิต ฝังตัว กินนอนอยู่ในชุมชนนี้
ไปอยู่เหมือนเป็นเพื่อนบ้าน ที่เข้าไปดูปัญหาของชุมชน
มีปัญหาอะไรก็ช่วยแก้ไข ตั้งแต่ประมาณปีที่แล้ว
ซึ่งผลตอบรับที่ได้ก็ถือว่าดี และชาวบ้านก็พอใจมาก !!
............
ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก คม ชัด ลึก