"ย้ำการสืบสวน"
บช.ก.เป็นอีก บช.ที่มีการผลักดันแนวคิดสมัยใหม่เพื่อพัฒนาการทำงานของตำรวจให้เป็นสากล
จากโครงการแรก “ตำรวจผู้รับใช้ชุมชน” ที่ส่งตำรวจไปฝังตัวอยู่ในพื้นที่จนได้รับการยอมรับ แต่งานตำรวจผู้รับใช้ชุมชนถือว่าการสืบสวนจับกุมคนร้ายเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม
เมื่อมาเป็นโครงการ “สืบสวนสมัยใหม่” ให้ความรู้ตำรวจผู้รับใช้ชุมชนอยู่บนพื้นฐานของศาสตร์ และหลักการที่ถูกต้อง
พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. ได้ศึกษาวิจัยจนพบปัญหาการสืบสวน และจำเป็นต้องปรับปรุ
งแก้ไขโดยด่วน ทั้งการจับผิดตัว ปัญหาการสืบสวนค้นหาความจริง
ซึ่งนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาสำคัญไม่ได้ จึงได้รวบรวมเทคนิคสืบสวนสมัยใหม่ร่วมกับทีมงานตำรวจมือดีในต่างประเทศ นำเทคนิคการสืบสวนสมัยใหม่มาทำเป็นหลักสูตรการฝึกอบรมตำรวจในสังกัด บช.ก. แบ่งเป็น 15 วิชา ความรู้เรื่องเหยื่อวิทยา วิธีการล่าเหยื่อของมนุษย์ ซึ่งตำรวจควรต้องรู้ว่ามนุษย์มีธรรมชาติในการล่าเหยื่ออย่างไร
ถือเป็นครั้งแรกในวงการตำรวจไทยที่มีการสอนวิชาการเหล่านี้
ที่ผ่านมา งานสืบสวนเป็นการทำงานแบบตั้งรับ รอให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นก่อน จึงเริ่มสืบสวนหลังเกิดเหตุ จับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี แทนที่จะใช้วิธีการสืบสวนเชิงรุก โดยทำการสืบสวนก่อนหรือขณะเกิดเหตุ ซึ่งช่วยป้องกันเหตุไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นในลักษณะเดียวกันได้ และเป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย
ซึ่งมีความสำคัญกว่าการสืบสวนแบบเก่า ที่สืบสวนเฉพาะหลังเกิดเหตุเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุไปแล้ว
ตำรวจสมัยใหม่ต้องมีความรู้คนร้ายในประเทศไทยแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ คนร้ายทั่วไป ฆาตกรผิดปกติทางจิต ฆาตกรผิดปกติทางอารมณ์ และฆาตกรสติแตก
ตำรวจต้องวิเคราะห์ประเภทคนร้ายให้ถูกต้อง หากไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ จะทำให้วิเคราะห์ผิด และนำไปสู่การจับผิดตัว เพื่อหา
เหตุผลในการกระทำผิดของคนร้าย แต่คนร้ายหลายประเภทที่ไม่สามารถใช้เหตุผลปกติอธิบายได้ จึงเป็นเหตุหนึ่งของการ “จับแพะ” ถ้าไม่รู้จักเรียนรู้การสืบสวนสมัยใหม่ จะทำให้มีโอกาส “จับแพะสูง”
ในช่วงปี พ.ศ.2558 ประเทศไทยจะเปิดประตูสู่ประชาคมโลก จำเป็นต้องพัฒนาแนวทางการสืบสวนของตำรวจให้มีคุณภาพมีความเป็นมืออาชีพ
มีความเป็นสากลที่นานาชาติยอมรับและเชื่อถือ.
สหบาท
ขอขอบคุณ
- นสพ.ไทยรัฐ วันจันทร์ น.6
- http://www.thairath.co.th/column/region/policeshine/310363
/CPO.TH
ซึ่งนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาสำคัญไม่ได้ จึงได้รวบรวมเทคนิคสืบสวนสมัยใหม่ร่วมกับทีมงานตำรวจมือดีในต่างประเทศ นำเทคนิคการสืบสวนสมัยใหม่มาทำเป็นหลักสูตรการฝึกอบรมตำรวจในสังกัด บช.ก. แบ่งเป็น 15 วิชา ความรู้เรื่องเหยื่อวิทยา วิธีการล่าเหยื่อของมนุษย์ ซึ่งตำรวจควรต้องรู้ว่ามนุษย์มีธรรมชาติในการล่าเหยื่ออย่างไร
ถือเป็นครั้งแรกในวงการตำรวจไทยที่มีการสอนวิชาการเหล่านี้
ที่ผ่านมา งานสืบสวนเป็นการทำงานแบบตั้งรับ รอให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นก่อน จึงเริ่มสืบสวนหลังเกิดเหตุ จับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี แทนที่จะใช้วิธีการสืบสวนเชิงรุก โดยทำการสืบสวนก่อนหรือขณะเกิดเหตุ ซึ่งช่วยป้องกันเหตุไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นในลักษณะเดียวกันได้ และเป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย
ซึ่งมีความสำคัญกว่าการสืบสวนแบบเก่า ที่สืบสวนเฉพาะหลังเกิดเหตุเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุไปแล้ว
ตำรวจสมัยใหม่ต้องมีความรู้คนร้ายในประเทศไทยแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ คนร้ายทั่วไป ฆาตกรผิดปกติทางจิต ฆาตกรผิดปกติทางอารมณ์ และฆาตกรสติแตก
ตำรวจต้องวิเคราะห์ประเภทคนร้ายให้ถูกต้อง หากไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ จะทำให้วิเคราะห์ผิด และนำไปสู่การจับผิดตัว เพื่อหา
เหตุผลในการกระทำผิดของคนร้าย แต่คนร้ายหลายประเภทที่ไม่สามารถใช้เหตุผลปกติอธิบายได้ จึงเป็นเหตุหนึ่งของการ “จับแพะ” ถ้าไม่รู้จักเรียนรู้การสืบสวนสมัยใหม่ จะทำให้มีโอกาส “จับแพะสูง”
ในช่วงปี พ.ศ.2558 ประเทศไทยจะเปิดประตูสู่ประชาคมโลก จำเป็นต้องพัฒนาแนวทางการสืบสวนของตำรวจให้มีคุณภาพมีความเป็นมืออาชีพ
มีความเป็นสากลที่นานาชาติยอมรับและเชื่อถือ.
สหบาท
ขอขอบคุณ
- นสพ.ไทยรัฐ วันจันทร์ น.6
- http://www.thairath.co.th/column/region/policeshine/310363
/CPO.TH
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น