11 สิงหาคม 2554

ตำรวจนอกเวลา

ความรู้ของตำรวจนั้น สลับซับซ้อน

ผลวิจัยพบว่าหลักการวิธีการ เดิมๆนั้นมีผิดอยู่มากหลายเรื่อง แต่ก็ยังเห็นใช้อยู่ในวงการตำรวจของไทย ส่วนเรื่องดีๆอีกมาก ตำรวจกลับไม่ได้นำมาใช้ ไม่เรียน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เรียนจบจากสถาบันตำรวจแล้วไม่ต้องศึกษาหาความรู้เพิ่ม หรือปรับปรุงเทคนิควิธีการ ทำให้เกิดประโยชน์กับสังคมและเป็นตำรวจที่ดี

หากใช้วิธีการแบบผิด รู้ไม่เท่าทันในงานตำรวจ มีแต่จะทำร้ายองค์กรตำรวจและสังคม

ตำรวจ ที่ไม่ได้พัฒนา ไม่ได้ปรับปรุงเทคนิควิธีการให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงสังคม ไม่ได้รับเอาความรู้ใหม่ๆที่วงการตำรวจโลกค้นพบและพิสูจน์แล้วได้ผลมา ปฏิบัติ จะสร้างความเสียหายต่อองค์กรอย่างยิ่ง

หลายสิบปีที่ผ่านมา “ความไม่รู้” ได้ทำร้าย ทำลายคนดีๆ คนเก่งขององค์กรไปมากมาย บางคน “หลงทิศทาง” ทำผิดๆ หรือเพี้ยนไป ห่างจากความเป็นตำรวจ กระทำแบบผิดเทคนิควิธีการ

ที่แย่ที่สุดก็คือ “ผิดกฎหมาย” โดยไม่ศึกษาหาความรู้ “อ้างว่าการละเมิดกฎหมายเพื่อรักษากฎหมาย” ซึ่งเป็นเรื่อง ผิด-เสียหาย
จึงเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ตำรวจต้องช่วยกันแก้ไข

ประสบการณ์ ทำงานตลอด 35 ปี ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายา-พันธุ์ ผบช.ก. ที่ได้จากการพูดคุยกับเพื่อนตำรวจในเรื่องประสบการณ์ทำงาน “ทำให้เข้าใจและเห็นใจตำรวจ” ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องหน้าที่การงาน บางอย่างทำไปเพราะไม่รู้ ไม่ได้ศึกษาในสิ่งที่ถูกต้อง เห็นรุ่นพี่ๆทำกันก็ทำตามกันไป

“โครงการตำรวจนอกเวลา” จึงเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาบุคลากรของ บช.ก. ที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ มอบให้ พล.ต.ต.สรรพวุฒิ พิพัฒน์พันธุ์ รอง ผบช.ประจำ ตร. ปฏิบัติราชการ บช.ก. พ.ต.อ.อภิชัย ธิอามาตย์ รอง ผบก.ป. รับผิดชอบโครงการ เพื่อสอนวิชา “ความรู้ที่ถูกต้อง” ให้แก่ข้าราชการตำรวจรุ่นน้อง ตำรวจรุ่นหลังๆ

ไม่ต้องหลงทำสิ่งที่ผิดๆอีกต่อไป!!!

ด้วย วิธีการ “ถ่ายทอดความรู้” ในรูปแบบ “พี่สอนน้อง” นายพลสอนนายพัน นายพันสอนนายร้อย นายร้อยสอนนายดาบ, จ่า เป็นทอดๆไป ในรูปแบบการแนะนำ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนและผู้สอนได้แสดงความคิดเห็น บอกเล่าประสบการณ์ และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ระดมความคิด ประสบการณ์ ความรู้ตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง นำมาสู่ข้อสรุป ทำการวิเคราะห์ จัดหมวดหมู่ และถ่ายทอดกันต่อๆไป

เพื่อไม่ให้วงจรอุบาทว์เกิดขึ้น

แล้วจบที่ความหายนะในงานตำรวจ.

สหบาท

ขอขอบคุณ บทความจาก

คอลัมน์สหบาท หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ