จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

"ผกก.อธิป"มือปราบเป๊าะ ตากล้องมือฉมัง คลิกเน็ตค้นห้องสมุดโลก




คอลัมน์ ถอดเครื่องแบบ โดย ชินวัฒน์ แพทยานนท์ วันที่ 09 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1360425205&grpid=03&catid=19&subcatid=1905

"ถอดเครื่องแบบ" สัปดาห์นี้ แวะเวียนมาที่กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม หรือ "คอมมานโด" นั่งจับเข่าคุยผู้กำกับสุดฮอต พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผกก.ปพ.บก.ป. หรือ ผกก.ธิป นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 46 ผู้อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังการจับกุมนายสมชาย คุณปลื้ม หรือ "กำนันเป๊าะ" ในไลฟ์สไตล์วันสบายๆ

ผกก.ธิป เล่าว่า ปกติไม่ค่อยมีเวลาว่าง ทำงานวันละ 24 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 7 วัน ลงพื้นที่ต่างจังหวัดบ้าง หรือไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บ้าง อย่างเคสจับกุมกำนันเป๊าะลงพื้นที่ จ.ชลบุรี นานต่อเนื่องถึง 2 เดือน ไม่ได้กลับบ้านเลย แต่ถ้าหากไม่ได้ลงพื้นที่ ปกติจะกินนอนอยู่ที่ทำงานแทบทุกวัน

"หากมีเวลาว่างผมจะไปวิ่งออกกำลังกายบ้าง หรือปั่นจักรยานบ้าง ที่สนามฟุตบอลกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงเช้าเวลา 05.00-06.00 น. วันเสาร์และวันอาทิตย์ ทั้งวิ่งทั้งปั่นจักรยานรวมกัน วันละประมาณ 20 กิโลเมตร จะมีบ้างบางครั้งที่เปลี่ยนบรรยากาศไปออกกำลังกายที่สวนรถไฟ เพราะมีก๊วนประจำอยู่" ผกก.ธิปเกริ่น

ส่วนกีฬาสุดโปรดของ ผกก.คอมมานโด คือการยิงปืน "หากว่างจะไปซ้อมยิงปืนเป็นประจำ ที่สนามยิงปืน บก.ป. การยิงปืนเป็นการฝึกใช้อาวุธป้องกันตัว ฝึกสมาธิ แต่ในสถานการณ์จริง ผมจะไม่ใช้ปืนยิงพร่ำเพรื่อ นอกจากสถานการณ์คับขันหรือจวนตัว เพราะหากกระสุนออกจากกระบอกปืนเมื่อไหร่จะมีการสูญเสียเกิดขึ้นแน่นอน"

จบจากโหมดกีฬา ผกก.คอมมานโด พาคู่สนทนาวกเข้าหัวข้องานอดิเรกที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ คือ การถ่ายรูป ซึ่งเจ้าตัวศึกษาอย่างจริงจัง และสะสมกล้องไว้หลายตัว

"ผมชื่นชอบเรื่องการถ่ายภาพ ชอบใช้กล้องยี่ห้อนิคอน (NIKON) เพราะชอบโทนสี ถ่ายภาพวิวออกมาสีจะเด่นสวยมาก ผมเล่นกล้องมาหลายสิบปีแล้ว ตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ยุคนั้นยังใช้กล้องฟิล์มอยู่ อาทิ รุ่น FM2, FE2, F3 แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้กล้องดิจิตอล DSLR แทน ใช้รุ่น D3000" ผกก.ธิปเล่าปนยิ้มอย่างมีความสุข พร้อมแง้มว่า

"กำลังคิดจะซื้อกล้องสเปกสูงๆ ระดับโปรสักตัว แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าคงไม่ค่อยมีเวลาเที่ยวเล่นถ่ายรูปเท่าไหร่เลยยังไม่ตัดสินใจซื้อ"

นอกจากนี้ ผกก.ธิป ยังนำเทคนิคการถ่ายภาพมาใช้ในงานสืบสวนด้วย "การถ่ายภาพมีประโยชน์ต่องานสืบสวน ผมมีเลนซูมเทเล 400 มิลลิเมตร ใช้ถ่ายภาพระยะไกลในงานสืบสวนได้ เช่น การเฝ้าจุด การสะกดรอยคนร้าย ต้องใช้กล้องที่มีเลนส์ซูมระยะไกลเป็นกิโลเมตร เพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ซึ่งปกติผมจะถ่ายภาพเองแทบทุกครั้ง"

ครั้นถามถึงเทคนิคการถ่ายภาพ ผกก.ธิป บอกว่า การถ่ายภาพเป็นศาสตร์และศิลปะอย่างหนึ่ง การถ่ายภาพจะต้องรู้พื้นฐานก่อน ส่วนมุมมองของรูปที่จะออกมา ขึ้นอยู่กับศิลป์และอารมณ์ของแต่ละคน

กระทบไหล่มือโปรทั้งที เลยถามถึงผลงานสุดประทับใจ ผกก.ธิป หยุดคิดครู่หนึ่ง ก่อนตอบว่า "ภาพที่สวยที่สุดผมมองว่าไม่มี เพราะทุกภาพที่ถ่ายมา สวยทุกภาพอยู่แล้ว ถ้าเราใช้อารมณ์ศิลปะในการมอง ภาพก็จะออกมาสวยสำหรับเรา ผมมองว่าภาพจะออกมาสวยหรือไม่ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนมากกว่า เพราะแต่ละคนมีมุมมองไม่เหมือนกัน

"โลกนี้มีอยู่ 3 สิ่ง การสร้างสรรค์ การปกป้อง และการทำลาย การถ่ายภาพเป็นงานสร้างสรรค์ สร้างโลกให้สวยงาม ถ้าภาพถ่ายออกมาดี คนจะชอบเยอะ สังเกตได้จากในเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรม หากภาพสวยคนจะเข้าไปกดไลค์เยอะ อย่างที่โบราณเขาบอกไว้ว่า ภาพหนึ่งภาพแทนคำพูดเป็นล้านคำได้"

ฟังคำตอบทำให้รู้ว่า ผกก.คอมมานโด ก็มีอารมณ์ศิลป์ไม่เบา!!

นอกจากนี้ ผกก.ธิป บอกด้วยว่า ในเวลาเร่งรีบ บางครั้งจะใช้กล้องมือถือถ่ายรูปด้วย เทคโนโลยีสมัยนี้พัฒนาไปไกลมาก แค่กล้องมือถือก็ถ่ายภาพได้ชัดมาก โดยเฉพาะกล้องโทรศัพท์ไอโฟน5 ถ่ายภาพออกมาสวยมากทีเดียว ยิ่งถ้าใช้แอพพลิเคชั่นตกแต่งรูปด้วยแล้ว จะได้ภาพหลายมุมมองและต่างมิติออกไปด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น ผกก.ธิป ยังเป็นนักท่องโลกไซเบอร์ และเป็นนักสืบทางอินเตอร์เน็ตด้วย

"ผมมองว่าการเล่นอินเตอร์เน็ตเป็นคลังความรู้ของโลก เป็นคลังห้องสมุดโลก การท่องโลกอินเตอร์เน็ตก็เหมือนการเข้าไปอ่านหนังสือในห้องสมุดโลก ค้นคว้าหาข้อมูลสิ่งต่างๆ ที่เราอยากรู้ เช่น เรื่องกำนันเป๊าะ ผมใช้เทคนิคการสืบสวนสมัยใหม่ ตามเทคนิคของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. ค้นคว้าหาข้อมูลจากในอินเตอร์เน็ตนำมาวิเคราะห์ เพราะทุกเรื่องจะมีฐานข้อมูลอยู่ในอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว ปัจจุบันเทคโนโลยีสำคัญมาก เมื่ออาชญากรพัฒนามากขึ้น เราก็ต้องพัฒนาให้เหนือกว่าอาชญากรให้ได้ ไม่เช่นนั้นตำรวจจะไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้เลย"

และแม้ว่า ผกก.ธิป จะเป็นนายตำรวจที่คร่ำเคร่งกับงาน หากแต่บั้นปลายชีวิตหลังเกษียณ เจ้าตัวบอกว่า อยากจะนั่งชิลๆ เล่นคอมพิวเตอร์ที่สเปกแรงๆ สักเครื่อง ทำงานตกแต่งภาพ ตัดต่อหนัง ครีเอตงานศิลปะต่างๆ อยู่ที่บ้าน แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: