ผบช.ก @ตำรวจน้ำนราธิวาส by เดลินิวส์ ในห้วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงคืนวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ได้วางแผนลอบก่อเหตุหลายจุด ทั้งวางระเบิด กราดยิงใส่ร้านอาหาร รวมไปถึงบุกยิ งถล่มอาวุธสงครามโจมตีตำรวจในพื้นที่ อ.ตากใบ หลายจุดรวมไปถึง สถานีตำรวจน้ำตากใบ (ส.รน.4 กก.7 บก.รน.) และปาระเบิดขว้างเอ็ม 26 เข้าใส่เรือตรวจการณ์ แต่เดชะบุญที่ระเบิดไม่ทำงาน ทำให้ตำรวจน้ำซึ่งเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ต่างงัดอาวุธและจัดกำลังยิงตอบโต้คนร้าย กันแบบสุดขีดเหตุปะทะกันแบบดุเดือด ส่งผลให้ ด.ต.ธรนินทร์ ผ่อนผาสุข ผบ.หมู่ สถานีตำรวจน้ำตากใบ ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ขาซ้าย แต่ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.วีระยุทธ ตาสีพันธ์ สว.สส. สภ.ตากใบ นำกำลังตำรวจช่วยเสริมอีกแรง จนสามารถหยุดการเข้าโจมตี รวมทั้งยังตอบโต้วิสามัญคนร้ายได้ 1 ราย ก่อนที่เหลือทั้งหมดจะล่าถอยหลบหนีไปแบบไม่เป็นขบวนภายหลังเกิดเหตุดังกล่าว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.พร้อมด้วย พ.ต.อ. ชัยณรงค์ ลิมปิทีป รอง ผบก.รน.และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและบำรุงขวัญเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับบาดเจ็บทันที โดยเน้นย้ำถึงความสำเร็จของการป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียกำลังพลในครั้งนี้ ชี้ให้เห็นถึงหลักการที่ ผบช.ก.ได้เคยเน้นให้เจ้าหน้าที่ทุกนาย ต่อสู้สุดขีด เมื่อถูกลอบโจมตี เพราะนอกจากจะหยุดยั้งปฏิบัติการอุกอาจของคนร้ายได้แล้ว ยังสามารถรุกคืบ โต้ตอบจนคนร้ายได้ตามรูปแบบที่วางพ.ต.อ.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผกก.7 บก.รน.ในฐานะผู้บังคับบัญชา ที่กำกับดูแลสถานีตำรวจน้ำตากใบ เผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามแนวทางที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เคยมอบหมายไว้ โดยเฉพาะเรื่อง การปรับยุทธวิธีและระบบการรักษาความปลอดภัย นำหลักวิชาการที่ถูกต้องมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาในพื้นที่ อีกทั้งที่ผ่านมา ตำรวจน้ำต่างผ่านการอบรมในหลักสูตรยุทธวิธีตรวจค้นและจับกุม (คอนแทคแอนด์คัฟเวอร์) มาแล้วทั้งสิ้น“ก่อนหน้านี้ เราเคยประสบเหตุและต้องยิงต่อสู้กับคนร้ายมาแล้ว ในเหตุการณ์ซุ่มยิงขณะออกตรวจการณ์เมื่อช่วงเดือน ก.พ. 55 ที่ผ่านมา จึงถือว่ามีบทเรียนและเป็นประสบ การณ์ที่ต้องย้ำว่าตำรวจทุกนายต้องพร้อมเสมอ เมื่อออกปฏิบัติหน้าที่จะประมาทไม่ได้แม้ แต่เสี้ยววินาที เพราะนั่นหมายถึงชีวิตที่อาจดับสูญได้ทันที และเป็นการสูญเสียที่ไม่อาจเรียกร้องกลับคืนได้ เป็นสิ่งซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุครั้งล่าสุดจึงได้กำชับให้ตำรวจน้ำ ต้องหมั่นฝึกฝนทบทวนให้มีความพร้อมเสมอกับการปฏิบัติการทุกสถานการณ์ รวมทั้งมีการปรับปรุงด้านภูมิทัศน์โดยรอบ”อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นความไม่ประมาท และป้องกันการถูกกลุ่มโจรใต้ ฉวยโอกาสหาทางแอบมาเล่นงานอีกครั้ง จึงได้มีการนำเสริมสร้างบังเกอร์ด้วยการนำ ท่อปูนซีเมนต์ ทรงกรมบรรจุทรายมาตั้งเรียงรายล้อมรอบตัวสถานีอีกหลายจุดด้วยกัน เนื่องจากบริเวณด้านหน้าสถานี ตั้งอยู่ติดกับตลาดบ้านตาบา ที่มีผู้คนสัญจรไปมาตลอดทั้งวัน ส่วนด้านหลังติดตลิ่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก เส้นแบ่งพรมแดนไทย-มาเลเซีย ก็มีเรือแล่นกันพลุกพล่านอาจเป็นช่องว่างได้เช่นกัน การถูกลอบโจมตีแบบไม่คาดฝันยังส่งผลให้ทางผู้ปฏิบัติ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตการทำงานเพื่อความปลอดภัย ส่วนรูปแบบยุทธวิธีที่เตรียมใช้ในการรับมือคนร้ายนั้น บางเรื่องไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ป้องกันคนร้ายนำไปปรับแผนเช่นกัน ผกก.7 บก.รน. กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เน้นย้ำให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.)ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากถูกลอบโจมตีให้เน้นยิงต่อสู้ตอบโต้คนร้ายทันทีว่า การยิงตอบโต้นั้นเป็นยุทธวิธีที่จะทำให้มีโอกาสรอดมากกว่าวิธีอื่นในภาวะคับขัน ซึ่งผลการศึกษาวิจัยพบว่าร้อยละ 90 ของเจ้าหน้าที่มีโอกาสรอดชีวิต แต่หากไม่สู้หรือพยายามหลบหนีจะมีอันตรายมากกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย แต่ข้อสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ การต่อสู้เป็นทีม หากเจ้าหน้าที่เข้มแข็งมีความพร้อมในการทำงานตลอดเวลาโดยไม่ประมาท ก็เชื่อแน่ว่าจะสามารถรอดพ้นจากสถานการณ์วิกฤติซึ่งหน้าได้สำหรับการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ แม่ ทัพใหญ่กองบัญชาการสอบสวนกลาง ยังได้รับการต้อนรับจาก นายมะยูโซะ มะ โต๊ะอิหม่าม ประจำมัสยิดอีซา บ้านตาบา หมู่ 1 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ รวมทั้งผู้นำศาสนาและผู้นำชาวบ้านชุมชนบ้านตาบา พื้นที่ซึ่งมีการดำเนินการตามแนวทางทฤษฎี “ตำรวจผู้รับใช้ชุมชน” และต่างให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และพากันชื่นชมการปฏิบัติงานของตำรวจน้ำตากใบนายมะยูโซะ กล่าวว่า ขอขอบคุณ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.และตำรวจน้ำ ที่มาอยู่กับชาวบ้านเข้ามาทำหน้าที่ให้บริการชุมชนเป็นอย่างดี เข้ามาทำกิจกรรมชุมชน กิจกรรมทางศาสนาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยไม่เคยสร้างปัญหา หรือสร้างเงื่อนไขให้กับชุมชนเลย ตำรวจน้ำที่ตากใบ เข้าถึงประชาชนในพื้นที่ด้วยการให้บริการ ขอขอบคุณที่มาสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน และชาวตากใบแม้เหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงได้ในเร็ววัน แต่ความหวังที่จะเห็นแสงไฟที่ปลายอุโมงค์ ยังเกิดขึ้นได้เสมอ!! หากแต่เราคงต้องร่วมแรงร่วมใจกันอย่างจริงจัง ไม่ปล่อยให้ปัญหาเป็นภาระของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่ เป็นฝ่ายรับผิดชอบเท่านั้น เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า เพื่อความสงบสุขร่มเย็นและสันติสุขที่ทุกคนต่างตั้งตารอคอย ทุกภาคส่วนในสังคมจึงต่างต้องมีส่วนร่วมอย่างสำคัญกับปัญหานี้. รัชพล ยี่สุ่น ขอขอบคุณ - นสพ.เดลินิวส์ - http://m.dailynews.co.th/article/5832/163706
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น