พิสูจน์ทฤษฎีใหม่'ตร.รับใช้ชุมชน'
บช.ก.พิสูจน์ทฤษฎีใหม่ จัดทัพ'ตำรวจผู้รับใช้ชุมชน' : ตะลุยข่าว โต๊ะรายงานพิเศษ
บัญชีการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการ-สารวัตร เริ่มทยอยคลอดออกมาให้เห็น หลังจากเข้าสู่เส้นตายเมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา บางกองบัญชาการถึงกับหืดขึ้นคอ เพราะกว่าจะจัดทัพวางคนได้ลงตัวก็นับว่ายากยิ่ง ต้องยอมรับว่า นายตำรวจหลายคนมีตั๋วฝากมาจากสายการเมือง หรือไม่ก็อยู่ใกล้ชิดผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหล่านี้ทำให้ผู้บัญชาการซึ่งเป็นผู้เซ็นคำสั่ง ต้องวางคนเพื่อให้งานเดินหน้าไปได้ แม้จะมีเด็กฝากบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่ารับได้ในหน่วยงานหลักอย่างกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งมีกำลังพลกระจายอยู่ทั่วประเทศ ต้องถือว่านิ่งที่สุด เพราะ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. ได้ จัดทำบัญชีเพื่อรองรับนโยบาย โดยพิจารณาจากผลงาน ความรู้ ความสามารถ ครั้งนี้เป็นการแต่งตั้ง โดยเน้นผลงานที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะนายตำรวจที่ถูกส่งเข้าไปพิสูจน์ "ทฤษฎีตำรวจผู้รับใช้ชุมชน" ตามแนวคิดใหม่ของผบช.ก. ซึ่งริเริ่มขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย
หากพิจารณานายตำรวจในสังกัด บช.ก.ที่ได้รับการสนับสนุนจาก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ หลังจากขานรับนโยบายนำไปปฏิบัติจนลุล่วงถือว่าเป็นผลงานผู้ที่ได้รับการ พิจารณาแต่งตั้งในตำแหน่งสูงขึ้น เช่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ได้เลื่อนจาก ผกก.ปพ.บก.ป. ขึ้นเป็น รองผบก.ป. เนื่องจากเป็นหนึ่งในมือทำงานด้านการสืบสวนปราบปรามและนำกำลังสนับสนุน นโยบายตำรวจผู้รับใช้ชุมชน จนได้ผลในทางปฏิบัติ
พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผกก.5 บก.ป. ที่คุมงานปราบปรามภาคใต้ตอนล่าง ถือว่าเป็นนายตำรวจอีกผู้หนึ่งที่ถูกจับตาหลังจากเขียนแผนงานด้านงบประมาณ จนรัฐบาลเพิ่มงบให้หลายหน่วยในสังกัดบช.ก. ปี ที่ผ่านมา ได้ย้ายเข้ามานั่งเก้าอี้ ผกก.ปพ.บก.ป.คุมหน่วยคอมมานโด กำลังหลักของกองปราบฯ รวมถึง พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ โยกจาก ผกก.3 บก.ป. มาที่ ผกก.2 บก.ป.และพ.ต.ท.วัชรพล ทองล้วน รองผกก.ปพ.บก.ป. ขึ้นนั่งเก้าอี้ ผกก.5 บก.ป.
ระดับปฏิบัติ พ.ต.ท.อภิชัย ดุษฎีพฤฒิพันธุ์ รองผกก.5 บก.ป. ซึ่งเป็นหัวหน้าตำรวจผู้รับใช้ชุมชนริมคลองมหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เขตชุมชนทดลอง ที่ส่ง จ.ส.ต.วิชัย จำเริญ ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป. จ.ส.ต.มนัส มังน้อย ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป.ลงพื้นที่ ได้รับการสนับสนุนให้เป็น ผกก.2 บก.ทล. รับผิดชอบ จ.นครปฐม เพื่อสานต่อโครงการเดิม
ผบช.ก.เชื่อว่า การบริหารงานตำรวจยุคใหม่ แตกต่างจากการบริหารงานยุคเก่าโดยสิ้นเชิง ที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชาตำรวจจะใช้การบริหารงานแบบบนลงล่าง ผู้บังคับบัญชาจะสั่งการให้ทำ กำหนดวิธีการให้ปฏิบัติ จากนั้นจะใช้วิธีการจับผิด และลงโทษผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม
"สำหรับการบริหารงานยุคใหม่ ผู้บังคับบัญชาจะต้องมีหน้าที่ชักจูงให้ตำรวจร่วมกันทำงาน โดยไม่ใช้การบังคับ ดังนั้นผู้บังคับบัญชาจะต้องมีความรู้ มีทักษะ มีประสบการณ์จริงๆ จึงจะเป็นผู้บังคับบัญชาหรือเป็นผู้นำหน่วยได้ เพราะจะต้องให้ความรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ รู้เทคนิควิธีการทำงาน ตลอดจนใช้หลักจิตวิทยา เพื่อชักจูงใจให้ตำรวจร่วมมือกันทำงานให้บรรลุผล โดยไม่ใช้การบังคับ เพราะความเป็นจริงแล้ว เราไม่สามารถบังคับตำรวจให้ทำงานได้ ถ้าถูกบังคับเขาก็จะทำเฉพาะต่อหน้าเท่านั้น ผู้บริหารยุคใหม่ต้องยอมรับในเรื่องนี้" ผบช.ก.อธิบาย
หากเทียบเคียงงานตำรวจชุมชนสัมพันธ์และตำรวจผู้รับใช้ชุมชน ซึ่งคนทั่วไปมักเข้าใจว่าเป็นงานที่คล้ายกัน แต่หากศึกษาโดยละเอียดแล้วจะพบว่า ตำรวจชุมชนสัมพันธ์นั้นเป็นทฤษฎีตรงข้ามกับตำรวจผู้รับใช้ชุมชน ซึ่งดำเนินงานในลักษณะบนลงล่าง ตำรวจเป็นฝ่ายกำหนดกิจกรรมเองทั้งหมด ประชาชนเป็นฝ่ายให้ความร่วมมือ โดยไม่นำเอาข้อมูลจากฝ่ายประชาชนมากำหนดกิจกรรม ดังนั้นสิ่งที่ตำรวจทำอาจไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนต้องการก็ได้ สุดท้าย ตำรวจชุมชนสัมพันธ์จึงใช้ไม่ได้ผล ไม่สามารถลดอาชญากรรมได้
"ตำรวจทั่วโลกส่วนใหญ่เลิกใช้ตำรวจชุมชนสัมพันธ์ไปแล้ว สำหรับตำรวจผู้รับใช้ชุมชนเป็นการทำงานในแบบล่างขึ้นบน เริ่มต้นจากความไว้เนื้อเชื่อใจ นำไปสู่ความร่วมมือทำกิจกรรม โดยประชาชนเป็นผู้บอกปัญหาและให้ความร่วมมือในการวางแผน ดังนั้นกิจกรรมจึงสนองตอบความต้องการของประชาชน ผลคือสามารถแก้ปัญหาในชุมชนได้ และลดอาชญากรรมได้จริง ซึ่งตำรวจกว่า 90% ทั่วโลก ยอมรับและเปลี่ยนการทำงานจากตำรวจชุมชนสัมพันธ์ มาเป็นตำรวจผู้รับใช้ชุมชนนานแล้ว" ผบช.ก.ย้ำ
ทฤษฎีตำรวจแนวใหม่นี้เริ่มต้นมาแต่ปี 2539 ที่ชุมชนหลังวัดบางขุนนนท์ ซึ่งเป็นโครงการของ พ.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รอง ผกก.หน.สน.บางขุนนนท์ (ยศ ตำแหน่งขณะนั้น) หลังจากนั้นตำรวจผู้รับใช้ชุมชนก็ได้รับการเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง และเกิดเป็นโครงการทดลองขึ้นอีกหลายแห่ง
นี่คือเหตุผลและหลักการในการพิจารณาให้ความดีความชอบในการจัดทัพ เพื่อให้ตำรวจ บช.ก.ปรับแนวคิด วิธีปฏิบัติสู่ตำรวจสมัยใหม่ ซึ่งต้องจับตาดูว่า ผลของทฤษฎีตำรวจผู้รับใช้ชุมชนจะประสบความสำเร็จขนาดไหน!!
ขอขอบคุณ ข้อมูลจากหนังสิอพิมพ์ คม ชัด ลึก
1 ความคิดเห็น:
ถ้าตำรวจท้องที่บางพลีดีแบบนี้ก็ดีซิ..เด็กในพื้นที่คงไม่เสียอนาคตถึงร้อยละ80%อย่างนี้หลอกมีทั้งยาบ้า..ทั้งฆ่าฟันกันไม่เห็นจะลดลงเลย..
แสดงความคิดเห็น